Corno blu

รองเท้าหนังที่ทำด้วยมือตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบงานน่าจะเหลืออยู่ไม่กี่ร้านบนโลกนี้ Corno Blu เป็นหนึ่งในนั้น และธุรกิจ bespoke ที่ยืนหยัดมาได้สิบกว่าปีไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“มาย ฝากไปเอารองเท้าหน่อยได้ไหม” คุณกายเจ้าของร้าน The Decorum โทรมาถามผมทันทีที่รู้ว่าผมจะไป Fukuoka ผมก็ตกปากรับคำไปโดยไม่ลังเล เพราะก็ไม่ได้มีแพลนจะไปไหนเยอะแยะอยู่แล้ว Fukuoka ผมก็ไปมาหลายรอบ ปกติก็เดินอยู่แค่ย่าน Tenjin-Daimyo เมืองก็เล็กนิดเดียว ที่กินที่ช้อปก็กระจุกอยู่รวมกัน

ตอนนั้นสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับ Corno blu คือเขาทำรองเท้า bespoke เจ้าของเคยไปเรียนทำรองเท้าที่อิตาลีมาหลายปี ภาพในหัวของผมก็เป็นร้านเล็กๆ ดูวินเทจหน่อย เดินเข้าไปต้องเจอหุ่นรองเท้าไม้แขวนเยอะๆ ตามภาพร้านรองเท้าที่เคยผ่านตามาจาก IG

แค่เดินไปเห็นหน้าร้านเท่านั้นแหละ ผมนี่ต้องรีบสำรวจตัวเองเลยว่ากูแต่งตัวโอเคไหมวะวันนี้แม้ร้านจะดูเรียบๆ แต่ก็สัมผัสถึงความหรูหราไฮโซที่อยู่ด้านหลังประตูบานนั้น ผมเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับ Seigaku san เจ้าของร้านกำลังง่วนอยู่กับแพทเทิร์นรองเท้า และรีบวิ่งออกมาต้อนรับอย่างฉับไว บรรยากาศในร้านดู cozy เกินคาด นั่นอาจจะเป็นเพราะบุคลิกของ Seigaku เองที่ค่อนข้างมีความเป็นกันเองและมีความเป็นศิลปินสูง ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายไปได้เยอะ

หลังจากผมให้เขาจัดแจงเรื่องรองเท้าของพี่กายเรียบร้อย บทสนทนาของเราก็เริ่มต้นขึ้น ภาษาอังกฤษเป็นอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างเราสองคนอย่างมาก จนเขาต้องงัด Google Translate ออกมาช่วยให้เราคุยกันเข้าใจมากขึ้นแต่บทสนทนาของเราก็ไปไกลถึงฟาร์มจระเข้สมุทรปราการได้อย่างไม่น่าเชื่อและผมก็ไม่รีรอที่จะขออนุญาตถ่ายรูปภายในร้านมา

Corno blu - Bespoke shoes workshop

ความเป็นมาและบทสนทนาสู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ

Corno Blu เปิดมาตั้งแต่ปี 2004 และเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ Sakurazaka (ไม่ไกลจากร้าน Fujito มากนัก) เมื่อปี 2014 แต่ก่อนหน้านั้น Seigaku เคยฝึกฝนการทำรองเท้ามาจาก Roberto Ugolini แต่ชื่อจะดังแค่ไหนนั้นไม่สำคญเท่ากับจำนวนปีที่อยู่ เพราะหลายคนไปอยู่แค่ 6 เดือน 1 ปี กลับออกมาก็ได้ความรู้ว่าไม่เต็มที่ Seigaku อยู่ที่อิตาลีกว่า 4 ปี ก่อนกลับมาฉายเดี่ยว ทำรองเท้าตั้งแต่ขึ้นหุ่น (Last) จนถึงเย็บตะเข็บด้วยมือ (Hand-welted) รองเท้าทุกคู่ที่เขาออกแบบเลยได้กลิ่นอายและโครงสร้างตามแบบฉบับรองเท้าอิตาลีมาเต็ม

หลังเล่าเรื่องราวของร้านจบ เขาก็ยื่นหนังมาให้ผมดู และถามผมว่ารู้จัก Ilcea ไหม นี่ไง Museum Calf เหมือนกับที่ John Lobb ใช้ พร้อมกับชี้ไปยังรองเท้า ready-to-wear ที่เพิ่งส่งมาจากโรงงานที่ Yamagata รองเท้าสีน้ำกลางเฉดกลาง เห็นมิติหนังสวยงามมาก สนนราคาประมาณ 20,000 บาท (หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นคู่นี่วางขายที่ Yeossal) แต่สำหรับงาน bespoke เขาก็หยิบตัวอย่างหนังอีก 2-3 ชุดมาให้ดู มีทั้งจาก Du Puy และ Annonay ของฝรั่งเศส ใครเล่นพวกเครื่องหนังคงทราบกันดีว่าโรงฟอกพวกนี้คือโรงฟอกที่แบรนด์ top tier ส่วนใหญ่ใช้กัน

เราคุยกันเรื่องหนังอยู่พักใหญ่ แล้วอยู่ๆเขาก็ถามว่าคุณมาจากประเทศไทยใช่ไหม? คุณรู้จักโรงฟอกหนังจระเข้บ้างไหม?” พร้อมกับเล่าว่าเขาพยายามมาหาที่ไทยอยู่ครั้งหนึ่ง แถวที่ๆมีฟาร์มจระเข้ ไล่เรียงกันไปมาก็ถึงได้รู้ว่าเขามาบุกโรงฟอกหนังย่านสมุทรปราการของเราแล้ว แต่ยังไม่ได้คุณภาพกับราคาที่ต้องการ (ถ้ามีใครทำธุรกิจนี้อยู่ ก็ลองส่งเมล์ไปเสนอขายเขาดูนะครับ) ดูเหมือนเขาจะอยากมีตัวเลือกหนังจระเข้ไว้ให้ลูกค้ามาก

โชคดีที่ระหว่างเราคุยกัน มีลูกค้าอีกคนเดินเข้ามา ทำให้ผมได้เห็นวิธีการฟิตติ้งรองเท้า แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรองเท้าแบบสั่งทำหรือ bespoke แต่เท่าที่สังเกตคือเหมือนเป็นแค่การแก้หุ่นคือตรงไหนที่ลูกค้าบอกว่าแน่นเขาก็จะพอกหุ่นเพิ่ม

ทำไมราคาสูง แต่คุ้ม ?

สำหรับราคาก็อยู่ในช่วง 75,000-210,000 เยนสำหรับงานสั่งทำ (Made to order) และ 180,000-245,000 เยนสำหรับ bespoke โดยมีค่าขึ้นหุ่นครั้งแรก 35,000 เยน ใช้เวลาทำ 3-6 เดือน (ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ปี 2019)

ในตอนแรกผมสงสัยอย่างมากว่าธุรกิจแบบนี้อยู่รอดได้อย่างไร แต่พอเห็นราคาก็พอจะเข้าใจ เพราะราคาสูสีกับราคาขายรองเท้าหนังแบรนด์ import ดีๆอย่าง Crockett & Jones, Alden และ Edward Green (ภาษีนำเข้ารองเท้าหนังที่ญี่ปุ่นสูงมาก) แต่ Corno blu คือรองเท้าที่ปรับหุ่นให้เข้ากับเท้า แน่นอนว่าการันตีความสบายในการสวมใส่ เพราะคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตด้วยการเกินเป็นส่วนใหญ่ การตัดสินใจเลือกซื้อแทนแบรนด์อื่นๆก็ไม่ยากมากนัก

Corno blu - Storefront Segaku-san Corno blu - Bespoke range Segaku-san assistant Welt machine
words by
Published on