Tenjin – Daimyo
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวทางตอนใต้ของญี่ปุ่น “Kyushu” มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก็ไม่ลืมที่จะแวะ Fukuoka ครับ แต่น่าเสียดาย มีเวลาเดินเล่นในตัวเมือง Fukuoka อยู่แค่ 1 วัน เลยทำการบ้านไว้ก่อน เลือกเฉพาะร้านที่อยากไปดูจริงๆ
Fukuoka บอกเลยว่าถ้าไม่มีเป้าหมาย เดินทั้งวันก็ไม่มีหมดหรอกครับ เมืองไม่ใช่เล็กๆ แล้วห้าง ร้าน ถนน Shopping มีเยอะจนตาลายไปหมด สมแล้วทีนิตยสาร Monocle ยกให้เป็น Best Retail City แซงหน้า Tokyo ที่มีทั้งย่าน Shinjuku, Shibuya และ Harajuku ผมเองก็ให้ Fukuoka ชนะเหมือนกันครับ
มาพูดถึงเรื่องของการเดินทางก่อนดีกว่า ถ้ามาจากเมืองไทย หรือว่าไปจากโตเกียว เชื่อว่าทุกคนก็ต้องลงที่เดียวกันก่อนก็คือ Fukuoka Airport ซึ่งตรงนี้ถ้าใครอยากจะตั้งหลักก่อน ก็นั่งรถไฟ airport line ไปลงสถานี “Hakata” ซึ่งเป็นใจกลางเมืองของ Fukuoka ก่อน แวะพักกินราเมนที่ชั้น 2 ของสถานีรถไฟก่อนได้ครับ เค้าเรียกว่า Ramen Street แต่บางคนอยากจะไปย่าน Shopping เลยก็นั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Tenjin ก็ได้เช่นกันครับ นั่งรถไฟจากสนามบินมาไม่เกิน 15 นาทีครับ
- Fukuoka airport station —> Hakata station (10 นาที รถไฟ)
- Fukuoka airport station —> Tenjin station (12 นาที รถไฟ)
- Hakata station —> Tenjin station (20 นาที เดิน)
ส่วนใครมีเวลาก็แนะนำว่า ระหว่างทางเดินจาก Hakata ไป Tenjin แวะกินข้าวที่ Food Stalls ได้ครับ เป็นถนนอาหารชื่อดังที่รวมร้านอาหารไว้มากมาย แล้วบรรยากาศยังน่าเดินอีกด้วย (ถ้าไม่ร้อน)
อาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่จะไปเยี่ยมเยียน Fukuoka นะครับ ก็หนีไม่พ้นราเมน ผมจะ rank ร้านราเมนคะแนนสูงๆ ไว้ 5 อันดับละกันนะครับ สะดวกที่ไหน ก็ไปที่นั่นได้เลยครับ
- genkiippai (map)
- genei (map)
- ganzoakanoren (map)
- hakataikkousha (map)
- nakahama no.1 (map)
Shopping in Fukuoka
เกริ่นไปซะเยอะ ถึงเวลามาเข้าเรื่องแล้ว ผมไม่ได้ไปห้างหรูอย่าง Iwataya หรือว่าร้านแบรนด์ดังๆมาหรอกครับ แต่ผมไปเดินที่ถนนข้างๆ Big Camera ที่ Tenjin ถนนนี้ผมก็ไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหมือนกัน แต่ว่ามีร้าน Local เต็มไปหมด มีขายทั้งของญี่ปุ่นเองและของที่ import เข้ามา ผมเลือกมา 5 ร้านที่อยากแนะนำ ใครมีโอกาสได้ไปย่านนี้ไม่อยากให้พลาดครับ
View Tenjin Shopping Guide in a larger map
1. Johns (map) [CLOSED]
ร้านนี้เจ้าของไม่อยู่หนะครับ เลยขออนุญาตถ่ายรูปในร้านไม่ได้ สินค้าข้างในเป็นของ import ประมาณ 70% และเป็นของผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชาย ร้านนี้มีอย่างเดียวที่น่าสนใจ และทำให้ผมต้องแวะคือมีของ Anatomica ขาย ผมเข้าไปเพื่อไปซื้อ Wakouwa Deck Shoes ซึ่งเป็น lot สุดท้ายที่ผลิตในญี่ปุ่น และหายากมาก
ตอนนี้จะหาคู่สีขาว Made in Japan ต้องบอกว่าเสียใจด้วยไม่มีแล้วครับ ก็ถือว่าโชคดีมากที่คู่สุดท้ายตรงกับไซส์เท้าของมาย @piyasil พอดี แต่สำหรับสีอื่นคิดว่ายังมีจำหน่ายในร้านนี้อยู่ครับ หากใครสนใจสินค้าของ Anatomica แต่ไม่มีโอกาสได้แวะมาโตเกียว ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ
สินค้าแนะนำ : Wakouwa
2. Harbours (map)
เดินเลยมาประมาณ 50 เมตรทางขวามือจะมีซอยเล็กๆในตึกที่ชื่อว่า “Tenjin Yano” หน้าทางเข้าจะมีป้ายบอกร้านที่อยู่ภายในตึก จะมีป้าของร้าน “Stomp” อยู่ด้วย เข้าไปในตึกนั้นเลยครับ เดินตรงไปตามทางเดินเล็กๆ จนสุดยังไม่ต้องเลี้ยว จะเจอกับร้านที่ชื่อว่า Harbours อยู่ทางขวามือ
ร้านเป็นร้านเล็กๆ ห้องเดียว แต่ว่าเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพทั้งนั้นครับ มีทั้ง Made in Japan และสินค้า Import ครับซึ่งส่วนใหญ่มาจากอังกฤษ
เสน่ห์ของร้านอยู่ที่เข้าถึงยากเนี่ยแหละครับ เจ้าของติ๊สเกิน และอีกอย่างก็คือเจ้าของ ที่มีชื่อว่าคุณจิน หน้าตาละม้ายคล้ายจิตกรใจดี หากใครอยากลองอะไร จับอะไร ถามอะไร เค้ายินดีบริการสุดๆ
สำหรับนักช้อปสายวินเทจ ร้านนี้เป็นร้านนี้ถือว่าห้ามพลาดเลย โดยเฉพาะ Accessory อย่างผ้าเช็ดหน้า หลายลายที่เอามาเล่นกับสูทหรือ Blazer คงจะเท่พอตัวเลยครับ (คิดว่าเป็นสินค้าที่ราคาไม่แรงมาก) หรือจะเป็นสายเอี๊ยมของ Albert Thurston
ส่วนเสื้อเชิ้ตก็มีทั้งของ Haversack, Hackett, Still by hand (Made in Japan) รองเท้าของ Bowen ถุงเท้าของ Corgi และก็ยังมีแบรนด์ของร้านเองที่ชื่อว่า Harbours และ Hyperion ซึ่งจะเน้นตัวสูทกับ Blazer Classic เป็นส่วนใหญ่ครับ
สินค้าแนะนำ : Hyperion, Haversack
3. FRAME (map)
เดินถัดมาจาก Harbours มาประมาณ 200 เมตรก็จะเจอร้านนี้ Frame อยู่ทางซ้ายมือของซอย ติดกับที่จอดรถ
ร้านนี้มี 2 ชั้น แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ร้านจะค่อนข้างสะดุดตา เพราะว่าเป็นตึกไม้ 2 ชั้น ดู Classic และเชิญชวนให้เข้าสุดๆ ผมเลยไม่พลาดที่จะเข้าไป
พอเข้าไป สิ่งแรกที่สะดุดตาและคิดว่าเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีของร้านนี้เลยก็คือ BARBARIAN Rugby Wear มีทั้ง Polo และ T-shirt ทั้งแขนยาวและแขนสั้น สัมผัสจากเสื้อมันค่อนข้างหนาอยู่ครับ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมันถูกทำมาจาก Heavyweight Cotton
นอกจาเสื้อของ BARBARIAN แล้ว เครื่องหนังต่างๆ ทั้งเข็มขัด กระเป๋า รองเท้า และ Accessories จะเป็นอีกสินค้าประจำของร้านครับ รองเท้าในร้านจะเป็นของ Crockett & Jones รองเท้าชื่อดังจาก Northampton อีกหนึ่งยี่ห้อ ซึ่งเค้าผ่ารองเท้าโชว์และอธิบายรายละเอียดไว้ให้ดูด้วยครับ ตามลิงค์ มีไปตั้งแต่ Loafers ยัน Boots เลยครับ แต่ราคาก็มาตรฐาน Handmade จากเกาะอังกฤษ แพงครับ
สินค้าแนะนำ : Rugby Shirt, Crockett & Jones
หากเดินในซอยนั้นต่อไปเรื่อยก็จะพบกับร้านอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชันญี่ปุ่นอย่าง Rageblue หรือ Hare ซึ่งตั้งอยู่ที่ตึกเดียวกัน ก็เป็นแบรนด์ตลาดที่น่าสนใจครับ ผ่านเข้าไปชมกันได้ครับ ผมว่าดูดีกว่าแบรนด์พวก H&M หรือแบรนด์ตลาดอื่นๆ อยู่พอสมควร แต่ราคาก็สูงตามแบรนด์ญี่ปุ่นครับ
หรือถ้าชอบอะไรที่ดู Local ลงมาหน่อยก็จะมีแบรนด์กระเป๋าอย่าง Selfish หรือแบรนด์ Baybrook แบรนด์แฟชั่นอีกแบรนด์ของญี่ปุ่นที่มีเฉพาะทางใต้ของประเทศเท่านั้น
4. Slow Fukuoka (map)
อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจะจัดว่าเป็นงาน Local ได้เพราะที่อื่นน่าจะหาซื้อยากครับถึงแม้จะเคยเห็นโฆษณาผ่านตาตามนิตยสาร Free & Easy มาบ้างก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋าที่ออกแนว casual ครับ มีหลากหลายทรง ที่ดูดีเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็น Postal bag ที่ใช้ผ้า canvas ทำแทนที่จะเป็นหนังเหมือนที่เคยเห็นๆกันมา
ส่วนใบที่เป็นหนัง ผมว่าสวยทั้ง Tote bag และ Messenger bag ราคาก็สูงเป็นปกติของงานเครื่องหนังครับ แต่ผมว่าถ้าเป็นคนชอบความ unique และเบื่อกับแบรนด์ตลาดที่ฮิตใช้กันเยอะๆ กระเป๋า Slow ก็น่าจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ ดูไปดูมา ผมยังอยากได้เองเลยเหมือนกัน
สินค้าแนะนำ : Messenger bag
5. Trunk (map)
ผมเจอร้านนี้จากทาง IG ของเจ้าของ ชื่อ @trunk_fukuoka ร้านนี้มีชั้นเดียว ไม่ใหญ่มาก จัดว่าดูดีเลยครับ ตกแต่งง่ายๆ สินค้าข้างในมีที่เป็นของแบรนด์เขาเองด้วยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนคงไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างเช่น COMOLI หรือ Side Slope หรือ Moonstar sneaker ที่เป็นแหล่งผลิตให้กับ Shoes like Pottery ซึ่งก็จะเป็นสินค้า Made in Japan ทั้งหมดครับ เรียกได้ว่าใครตามหาแบรนด์ Local ญี่ปุ่นของจริงก็แนะนำครับ
สินค้าแนะนำ : Moonstar MS JP0016
จริงๆแล้วนอกเหนือจาก 5 ร้านที่เล่ามาทั้งหมด ยังมีอีกเยอะแยะนะครับในย่านนั้น หากใครพอจะมีเวลาช้อปปิ้ง ผมเชื่อว่าคงไม่ต้องไปไหนไกลเลยหละครับเดินอยู่แต่ในแถบนั้นอย่างเดียวก็หมดวันแล้วครับ ร้านที่ผมลืมแวะคือร้าน Brown และแถวนั้นก็ยังมีร้านของ 45rpm ที่น่าสนใจด้วย ผมปักเป็นหมุดสีแดงไว้ให้ในแผนที่ด้านบนแทนครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นย่าน Tenjin ที่ผมหวังว่าคงถูกใจหลายคนไม่มากก็น้อย จาก Tenjin ผมจะพานั่งรถไฟไปอีกเมืองที่ชื่อว่า Kurume เมืองที่ผลิตรองเท้า Made in Japan ให้กับหลายๆแบรนด์ดัง และแน่นอนครับว่าหนึ่งในร้านที่ผมจะไม่พลาดเลยก็คือ “Persica”
UPDATE 2019
ผมอยากแนะนำบางร้านเพิ่มเติมจากด้านบน เพราะหลังจากที่ไปมาครั้งนั้น ก็มีโอกาสได้ไปย่านนั้นอีกหลายรอบ เลยอยากแนะนำร้านที่ออกห่างมาจาก Tenjin-Daimyo มาหน่อย ส่วนร้านกาแฟนอกเหนือจาก Manu Coffee ที่ส่วนใหญ่น่าจะรู้จักกัน ผมแนะนำ Manly Coffee, Coffee County, NO Coffee
Harrys (map)
ใครสาย workwear คงต้องไม่พลาดร้านนี้ เพราะแบรนด์ทางสายนี้มีมาเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Post O’alls, Porter Classic, LVC ที่สำคัญร้านนี้เป็นร้านเดียวในย่านนี้ที่มี Resolute ขาย ผมเองก็เคยไปลอง Resolute ครั้งแรกที่นี่ นอกจากนั้นชั้น 2 ของตึกนี้ยังมีร้าน Nigel Cabourn Army Gym อีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าเดินแน่นอน
Brown’s / Knot (map)
อีกหนึ่งร้านที่ผมแวะประจำ เพราะเป็นร้านเดียวที่ stock แบรนด์ local ญี่ปุ่นเยอะมาก รวมถึงแบรนด์ Fujito ด้วย ใครสนใจรองเท้าของ Moonstar, Doek, Shoes Like Pottery ให้มาเดินดูที่ร้านนี้ ไม่ก็ร้านพี่น้องของร้านนี้ชื่อว่า Knot ซึ่งอยู่ไกลออกจากย่านนี้ไปอีกนิด
Dice & Dice (map)
ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากร้าน Brown แต่ขายเสื้อผ้า import แบรนด์ต่างประเทศเป็นหลัก Todd Snyder Champion, Battenwear, Wings + Horns จะมีแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังๆปะปนไปบ้าง สไตล์ร้านนี้ค่อนข้างหนักไปทาง street fashion เป็นอีกหนึ่งร้านที่ของสดใหม่ และมีให้เลือกเยอะมาก
Loopwheeler (map)
แบรนด์เสื้อผ้า knitwear ของญี่ปุ่นที่มีสาขาอยู่ไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น และเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงใช้เครื่องจักรแบบ loopwheel ที่ถักออกมาเป็นเหมือนท่อ เสื้อที่ได้ไม่มีตะเข็บข้าง และเนื้อผ้าจะมี texture และมีความ slub กว่าเสื้อที่ถักด้วยเครื่องสมัยใหม่ ภายในร้านจะมีเครื่องจักรดังกล่าวตั้งโชว์อยู่ เสื้อผ้าในร้านนี้ก็มีตั้งแต่เสื้อยืด เสื้อ sweat กางเกง sweat ไปถึง hoodie โดยจะเน้นสีเรียบ และลายมาตรฐานทั่วไป เช่น ลายทางขวาง (Breton stripe)