ในตอนที่แล้วเราได้รู้จักกับสไตล์ของเพื่อนที่เราชวนมางาน Chat & Drink with Friends กันแล้วบางส่วน ผมไม่แปลกใจเลยถ้ามีบางคนเปิดเข้ามาดู แล้วปิดไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่ชอบในสไตล์ของพวกเขา ต้องยอมรับว่าตัวผมเองก็ทำบ่อยๆ แต่มีหลายครั้งที่ผมได้อะไรกลับมาจากการดูคนที่สไตล์ต่างกับเรา เมื่อเรามองข้ามเรื่องสไตล์ไป เราจะเห็นจุดเล็กๆที่มันยังพอเข้ากับเราได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสี เลือกลาย หรือแม้กระทั่งการเลือก accessories ต่างๆ เช่นเดียวกันกับเพื่อนที่เรากำลังจะแนะนำในตอนนี้ ต่างคนต่างมีแนวการแต่งตัวของตัวเอง เยอะบ้าง น้อยบ้าง ก็พอให้ได้เห็นมุมมองและแนวคิดในการเลือกแต่งตัวของกันและกันไป
ทุกวันนี้มันมีแต่กระแส แค่ยืนอยู่เฉยๆมันก็วิ่งเข้ามาชนเราตลอด เราก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรคือกระแสหลัก อะไรคือกระแสรอง เรารู้แค่ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรกันมากกว่า ถ้าเราเข้าใจตัวเอง รู้ว่าอะไรที่เข้ากับเรา เราก็เลือกที่จะแต่งออกมาได้ง่ายๆ เพื่อนเราหลายคนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราไม่จำเป็นต้องแต่งตัวตามกระแสอะไรทั้งนั้นเพื่อให้ดูคูล แต่แต่งตามในแบบที่ตัวเองชอบเพื่อให้ดูดีก็เพียงพอแล้ว
––
Benz ผู้อยู่เบื้องหลัง Palini แบรนด์ไทยคุณภาพญี่ปุ่น
จากคอลัมนิสต์และสไตลิสต์นิตยสารสตรีทชื่อดัง เบนซ์ผันตัวออกมาทำแบรนด์หมวกจากความชื่นชอบของตัวเอง Palini ถึงแม้อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เพราะคนไทยส่วนมากก็ไม่คุ้นกับการใส่หมวกเหมือนที่เมืองนอก แต่ก็ต้องถือว่านี่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน มีเรื่องราว ความสนุก ความบ้าบิ่น แฝงอยู่ในหมวกทุกใบของ Palini คาแรคเตอร์เหล่านั้นจะมาจากไหนไม่ได้ นอกจากตัวตนของเบนซ์เอง ส่วนเรื่องคุณภาพ เรียกได้ว่ามาเต็มๆ แบบญี่ปุ่นเลย ทั้งในเรื่องวัสดุและขั้นตอนการทำทุกขั้นตอน ส่วนตัวผมเอง ผมชื่นชมและรู้สึกดีมากที่ได้เห็นแบรนด์หมวกของไทยแท้ๆ ที่ทำออกมาได้ดีและมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์นอกขนาดนี้
ในเรื่องสไตล์การเแต่งตัวของเบนซ์ แค่บอกว่าเป็นเด็กเก่า Cheeze และ Looker ภาพความเป็นสตรีทแบบไร้กฎเกณฑ์มันก็ลอยมาแล้ว แต่ในชุดที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันแล้วนั้น ยังมีเรื่องของโทนสีที่ยังดึงความสนุกไม่ให้หลุดกรอบออกไป เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่น้อยคนนักจะทำแบบนี้ได้
Instagram: @seang_cajon, @palini_bangkok
––
ถ่ายทอดสไตล์ผ่านเลนส์กล้องในแบบของ Jeto
ปกติเราจะเห็นเจโตอยู่หลังกล้องเป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาทำ 888 Creations โปรดักชั่นเฮ้าส์ที่อยู่เบื้องหลังโฆษณาหลายชิ้น ถ้าใครตาม IG เจโตอยู่ก็จะพอจับรสนิยมของเจโตผ่านเลนส์กล้องและสไตล์การแต่งบ้านของเขาได้ และคงเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมเราถึงต้องชวนเค้ามานั่งคุยกันในวันนั้น ในอีกมุมหนึ่งของเขา เขาเป็นนักกีฬา Hockey ทีมชาติไทย พวกเราก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าไทยเรามีทีมชาติกีฬานี้ด้วย แอบร้องเฮดีใจดังๆ เพราะเจโตและทีมเพิ่งไปคว้ารางวัลจากการแข่งขันที่ญี่ปุ่นมาด้วย
มองกลับมาที่สไตล์ของเจโต มันมีการผสมผสานความหลากหลายเอาไว้ เพราะเสื้อผ้าที่เขาเลือกใส่ไม่ค่อยมีอะไรที่ดูธรรมดา แต่ก็ไม่ได้หวือหวาเหมือนพวกเด็กสตรีทคนอื่นๆที่มักจะแต่งมาหลุดโลกขนาดทำให้คนอื่นต้องหันมอง มันมีความพิเศษที่บางครั้งต้องสังเกตถึงจะเห็น อย่างการเลือกใช้กระเป๋า clutch หรือเนื้อผ้าและทรงของกางเกงในวันนั้น มันมีดีเทลและลูกเล่นในแบบของเจโตเอง แต่พอมองภาพรวมแล้วมันออกมาดูพอดี กลมกล่อม นี่แหละคือสิ่งที่เราชอบในสไตล์ของเจโต
Instagram: @jeto88
––
Lens สไตล์ที่มากับวัยและวัฒนธรรมยุคสมัย
เลนส์ หนุ่มนักออกแบบที่ผันตัวมาทำงานด้านการตลาด เคยผ่านเวที 50 หนุ่มโสดมาแล้วด้วย แค่นี้คงพอจะเล่าถึงตัวเขาได้ประมาณหนึ่ง ว่าต้องหน้าตาดีมีรสนิยมเป็นทุนเดิมแน่ๆ แต่ถ้ามามองในเรื่องสไตล์ของเลนส์ให้มากขึ้น สำหรับเรา เลนส์คือเด็กสตรีทตัวจริงในแบบยุครอยต่อ 90’s เรามักจะได้ยินคำว่า Harajuku ออกจากปากเขาเป็นประจำเมื่อพูดถึงสไตล์การแต่งตัวที่เลนส์ชอบ เขาไม่ได้เลือกแบรนด์แพงและแบรนด์ฮิตอย่างที่ style icon หลายๆคนใส่กัน แต่เลนส์จะเลือกของใส่ออกมาเป็นในแบบของเขาเอง จับเอาแบรนด์นู้นมาชนแบรนด์นี้ได้หมด บางครั้งก็ข้ามไปถึงสไตล์ในแบบที่เราคาดไม่ถึงด้วย แต่พอมาอยู่บนตัวเลนส์มันกลับไม่ดูแปลก ผมเคยคิดว่าที่มันไม่แปลก บางทีอาจเป็นเพราะตัวเลนส์เองต่างหากที่แปลก ไม่ใช่การแต่งตัวหรอก
Instagram: @lensatti
––
Tol ใครว่าเสื้อลายใส่กับกางเกงลายและรองเท้าลายไม่ได้
โต คนนี้เป็นเพื่อนพี่ดีนตั้งแต่สมัยอนุบาล ทำงานหลากหลายตั้งแต่มาร์เก็ตติ้งแบรนด์เสื้อผ้าสตรีทแวร์ที่ทำเข้าจากฝั่งยุโรป ไปจนถึงงานนิตยสารที่เกี่ยวกับการเที่ยวในกรุงเทพ แค่นี้ก็คงพออธิบายได้แล้วว่าทำการแต่งตัวของพี่โตถึงจัดจ้านและหลากหลายขนาดนี้ แค่เราเห็นเขาเดินมาไกลๆ เราก็รู้แล้วว่าเป็นเขา พี่โตเป็นคนที่เลือกเสื้อผ้าใส่แบบไร้กฎเกณฑ์ ถึงขั้นที่เราใช้คำว่า Beyond Fashion ได้เลย เอาใหม่ๆ เราเรียกว่าแหกทุกกฎน่าจะเหมาะกว่า เรียกว่าเขาเป็นคนที่เสพย์ติดลายปริ๊นก็ว่าได้ แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือพี่เขาสามารถใส่ลายพวกนั้นลงมาพร้อมกันทีเดียวได้โดยยังทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้กด random มา คงมีแต่เขาเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้ นับถือความเก่งในการเลือกสีและลายของพี่เลยจริงๆ
Instagram: @tol_sahawas
––
เรียบง่ายแบบมีรายละเอียดในแบบของ Chao
บางคนอาจจะคุ้นหน้าเขาจาก IG ของบางแบรนด์ที่เขาไปถ่ายงานให้ เชา มีดีกรีทั้ง GQ Man และหนุ่ม Cleo ตัวจริงเขาไม่ใช่คนแต่งตัวหวือหวา เรียกว่าใส่ใจกับการแต่งตัวดีกว่า ไม่ต้องดูหรู ดูแพง หรือดูเด่นอะไร แค่เลือกใส่สิ่งที่ดูกลมกล่อมและคิดว่าใส่ออกมาแล้วดูดีบนตัวของเขาเอง ไม่ว่าจะหล่อหรูหรือหล่อเซอร์ เชาแต่งได้หมด แต่ก็อยู่ในกรอบของความเป็นตัวเองได้ตลอด สไลต์ของเชาจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดในสิ่งของที่หลายคนมองข้าม อย่างเช่นสีและลวดลายของสายนาฬิกากับเส้นสายของเสื้อผ้าที่เข้ากันได้ดีจนต้องเก็บเอามาใช้บ้างเลย
Instagram: @chao_ctn
––
เรียบง่ายแบบ rare item สไตล์ของ Bird
เบิร์ด เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยประถมของพี่ดีน ทำอะไรมาหลากหลายตั้งแต่ทำงาน office ทำทัวร์ ไปจนถึงช่างตัดผม เรียกว่าเป็นคนรักอิสระมาก อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น เช่นเดียวกับการแต่งตัว ชอบแบรนด์ไหนก็จะใส่ เจออะไรที่เข้ากับตัวเองก็ซื้อ แต่เบิร์ดสร้างเส้นบางๆเอาไว้ยึดแบรนด์เหล่านั้น ไม่ให้ตัวเองหลุดจากกรอบ คือการอยู่บนสีหรือชิ้นที่ไม่แรงมาก แบบถ้าเดินผ่านก็คงไม่เตะตา แบบเสื้อยืดน้ำเงิน กางเกงยีนส์ ผ้าใบที่หน้าตาธรรมดา แต่ถ้าลองดูเป็นชิ้นๆ แบบคนที่ชอบเล่นของจะรู้ว่าของดีๆทั้งนั้น เช่น Converse X Sophnet กางเกง Levi’s Fenom Fragment และอีกเยอะแยะตามแต่อารมณ์จะเลือกซื้อหามาประดับตู้เสื้อผ้า
Instagram: @nathaponsiri
––
อย่างที่บอกไปว่าเราไม่ได้แค่จัดงานเพื่อหาเรื่องแต่งตัว มาทำตัวชิคๆ คูลๆ เหมือนพวกผู้คนหน้างาน Pitti Uomo แต่เราอยากให้มันเป็นจุดเล็กๆที่ทำให้เห็นว่า ไม่ว่าใคร (ถ้าใส่ใจและสนใจ) ก็สามารถแต่งตัวออกมาดูดีได้ในแบบตัวเอง บางครั้งไม่ต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู แพงเวอร์อะไรก็แต่งให้ดูเท่ได้เหมือนกัน “สไตล์” มันไม่ได้ใช้แค่ taste อารมณ์หรือความรู้สึกอย่างเดียว มันมีความรู้อยู่ในนั้นด้วย ทั้งในมุมของสิ่งของ ที่มาที่ไปและคาร์แรคเตอร์ของแบรนด์ที่มันจะสะท้อนถึงรสนิยม ความชอบ และไลฟ์สไตล์ของเราได้เป็นอย่างดี แล้วต่อจากนี้ไปเราจะทำหน้าที่ถ่ายทอดและเรียบเรียงความรู้เหล่านั้นออกมาเป็นเรื่องราวให้ได้ติดตามกันเอง
สำหรับ Chat & Drink with Friends ในครั้งต่อๆไป เราคงชวนเพื่อนหน้าใหม่ๆเข้ามาพบปะ พูดคุยกันอีก ถ้าเป็นไปได้เราอาจจะได้เห็นมันกลายเป็น public event ในไม่ช้านี้ … แต่ มีใครสนใจมากันเปล่า ?
