Beams x Sugar Cane Rigid Jeans
เกือบจะครบปีพอดีที่ซื้อกางเกงตัวนี้มาจากญี่ปุ่น ต้องบอกว่าบังเอิญสุดๆที่ได้ตัวนี้มา เพราะไม่ได้อยู่ในหัวมาก่อนหน้านี้เลยครับ ถ้าใครไปมีโอกาสไปเที่ยวกับแถวฟูจิ ก็น่าจะได้แวะไปที่ Gotemba กันบ้าง ที่นี่เป็น Premium Outlet ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีแบรนด์เกือบทุกแบรนด์ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์จากฝั่งตะวันตก Ralph Lauren และ Brooks Brothers ก็มีครับ
ถึงแม้ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นสวรรค์ของนักช้อปทุกเพศ ทุกวัย แต่ครั้งนั้นผมไปกับทัวร์ เลยทำให้การเดินช้อปกลายเป็นเรื่องจืดชืดจากเวลาอันน้อยนิดที่ทัวร์เขาให้เราเดินเล่นในนั้น เอาแค่เดินให้รอบก็หมดเวลาแล้ว ผมเลยเลือกเข้าไปดูแต่แบรนด์ญี่ปุ่น Beams, Ships, Urban Research, Journal Standard เดินวนใน Beams อยู่นานพอสมควร สุดท้ายก็ไปเจอกับยีนส์ตัวนี้เข้า
บอกตามตรงว่าตอนนั้นราคามีผลต่อสภาพจิตใจพอสมควร เพราะคูณออกมาแล้วตกตัวละ 2,xxx บาท ไม่ต้องคิดมาก ควานหา size ก่อนเลยครับ มันมีทั้งแบบ Rigid และ One-wash ผมเจอที่น่าจะพอใส่ได้แค่ Rigid W30 กับ One-wash W29 ซึ่งตัวเล็กมากลองแล้วคับไป เลยคว้าตัว Rigid มา ด้วยความไว้ใจใน Sugar Cane ที่พอจะเคยได้ยินชื่อเสียงมาอยู่บ้าง และก็ได้แต่หวังว่าซักแล้วจะหดมาเป็น W30 ตาม tag เพราะตอนลองมันหลวมขนาดเอานิ้วยัดได้ 2-3 นิ้ว เอวกางเกงจริงๆน่าจะสัก 33 ได้
First Impression
ผมหยิบตัวนี้ไปลองโดยไม่รู้ก่อนว่าเป็น x Sugar Cane แต่ด้วยผ้าที่ทอแบบ vintage สีที่เข้มจนเกือบดำ และผมก็ชอบยีนส์ที่ไม่มีลายกระเป๋าหลังมากเป็นพิเศษอยู่แล้วด้วย มันเลยดูน่าสนใจขึ้นมา แต่เพราะได้มาแบบงงๆ มึนๆ หลังกลับไทยเลยต้องมาหาข้อมูลกันหน่อย search รุ่นนี้ใน Beams ก็ไม่มีแล้ว ต้องใช้วิธีเทียบรุ่นกับ Sugar Cane รุ่นปกติเอา ดูจาก Size Chart หลายๆรุ่น แล้วผมก็ เออ ออ ไปเองว่ามันคือรุ่น 1947 Type II เป็นผ้า 12 oz. ทรง Slim Straight
ตัวนี้เป็นตัว Collab กับ Beams ก็จริงแต่รายละเอียด 90% เป็นของทาง Sugar Cane ทั้งเป็กหน้า เป็กหลัง สีด้าย ทรง ซับกระเป๋า ส่วนที่เป็นของ Beams ก็มีแค่กระดุมเหล็กและก็ป้ายหนังกลับอันเล็กๆด้านหลังเท่านั้น
First Wash
Rigid หรือพวก Shrink-to-fit เป็นผ้าที่ต้องแช่ก่อนใส่ ผมเลือกใช้วิธีโยนเข้าเครื่องซัก ง่ายและเร็วดี ปั่นกับน้ำเปล่าอย่างเดียว ไม่ได้ใส่ผงซักฟอก ตั้งอุณภูมิน้ำไว้ที่ 50 °C หลังปั่นเสร็จก็เอาออกมาตากลม ไม่แนะนำให้ใช้วิธีปั่นแห้งครับ เพราะความร้อนจะทำให้ผ้ามันหดมากเกินไป หาพื้นที่ๆ อากาศถ่ายเทดีๆ ตากไว้สัก 3-4 ชม. ให้มันเกือบแห้ง ยังพอชื้นๆอยู่ แล้วค่อยนำมาใส่ วิธีนี้ก็จะช่วยให้กางเกงเข้ากับรูปร่างมากขึ้น มันเป็นการ mark รอยยับ รอยย่นที่มันเกิดขึ้นตามรูปร่างของเราไว้ก่อนใส่จริงด้วย
หลังซักถือว่ามันหดมาประมาณ 8-10% เหมือนผ้า Unsanforized ปกติ พอใส่จริง เอวดูจะหลวมไปหน่อย แต่ส่วนอื่นก็ยังรับกับรูปร่างได้ดีทีเดียว ตะเข็บที่บิดเล็กน้อยหลังซักทำให้ได้อารมณ์ยีนส์แนว Vintage มากขึ้นถึงแม้ทรงจะดูเป็นยีนส์สมัยใหม่ก็ตาม
Wear it with …
ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะตัดขาให้พอดีรองเท้า พับทบเล็กขึ้นมาขาจะลอยกำลังดี แต่ด้วยข้อมูลที่มีน้อยนิดเลยไม่กล้าเอาไปตัดก่อนซัก หลังซักเลยไปใช้บริการช่างรัช ลิโด้ชั้น 2 วัดขาไปจากบ้านให้เรียบร้อย จะได้ไม่พลาด เสร็จออกมาได้ความยาวที่เอาไว้ใส่กับ Bass Weejuns ได้แบบพอดีๆ
หรือจะพับโชว์ริมขึ้นมาหน่อยใส่กับ Jack Purcell ก็ไม่เลวเลย ใส่ไปเรื่อยๆน่าจะเห็นริ้ว fade สวยๆตรงปลายขาอย่างแน่นอน
––
Beams x Sugar Cane ตัวนี้อาจจะหาซื้อไม่ได้แล้ว แต่ Sugar Cane ทั้งรุ่น 1947 และ 1947 Type II น่าจะยังพอหาได้ไม่ยาก ยีนส์ตัวนี้มันอาจจะไม่ได้มีเรื่องราวมายาวนานเหมือน Levi’s ไม่ได้ใช้ผ้าจาก White Oak Cone Mill แต่ด้วยราคาที่ไม่โหดร้ายจนเกินไปและรายละเอียดต่างๆที่ถือว่าทำได้ดี Sugar Cane ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับยีนส์ตัวต่อไป