The Suit Company สูทญี่ปุ่นในราคาที่เอื้อมถึง

ไปญี่ปุ่นครั้งก่อนผมซื้อสูทของ The Suit Company กลับมาตัวหนึ่ง เป็นสูทราคาถูก มันดีและไม่ดีอย่างไร ผมเรียบเรียงมาให้คร่าวเป็นรีวิวสั้นๆครับ

ถ้าพูดถึงสูท ภาพแรกที่ลอยเข้ามาในหัวผมคงไม่ใช่ภาพอื่นใดนอกจาก ภาพของพระเอกหนุ่มนั่งใน Lounge Bar ของโรงแรมหรูระดับ 5-6 ดาว สั่งเครื่องดื่มประจำตัว Vodka Martini พร้อมกับวลีเด็ด ‘Shaken, not stirred’  ใช่ครับ James Bond เป็น idol ในการใส่สูทของผู้ชายทั่วโลก และผมก็มีความฝันที่เหมือนผู้ชายอีกหลายคนว่าสักวันผมจะมีสูทที่ใส่แล้วหล่อเหมือน Mr. Bond บ้าง

แต่ความฝันกับความจริงมันช่างไกลกันเหลือเกิน ผมเรียนวิศวะ จบออกมาก็ทำงานในโรงงาน ต้องคลุกคลีอยู่กับฝุ่นกับสิ่งสกปรกตลอดเวลา บางวันถึงขนาดใส่ขาสั้นไปทำงาน เพราะฉะนั้นสูทกับผม เราไม่ค่อยจะโคจรมาเจอกันเท่าไหร่ ใน 1 ปีผมน่าจะได้ใส่อยู่แค่ 1-2 ครั้ง

ผมเคยซื้อสูทจาก Suit Select ตอนจบมาใหม่ๆ ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องสูทเลยครับ ซื้อ size ใหญ่ไปด้วยซ้ำ เมื่อต้นปีลองเอาไปแก้ดู มันก็ออกมาทรงประหลาดๆ  ทำให้ต้องตัดสินใจซื้อใหม่ เพราะเรื่อง fitting เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรใส่ใจมันเป็นอันดับแรกๆ

ไปญี่ปุ่นครั้งก่อนเลยได้โอกาสไปซื้อสูทแบรนด์ญี่ปุ่นกลับมา เพราะคิดว่าในไทยไม่มีที่น่าสนใจพอ ผมอาจจะแนะนำ Suit Select ให้กับหลายๆคน เพราะผมคิดว่าเรื่อง fitting น่าจะเหมาะกับคนไทยที่สุดและยังไม่เห็นแบรนด์ไหนที่ดีกว่าในราคาใกล้เคียงกัน แต่ budget suit ก็คงเป็น budget suit ครับ ถ้าไปเทียบกับสูทดีๆ Suit Select ยังคงห่างชั้นกันเยอะครับ ทั้งเรื่องผ้า ทรง และที่สำคัญที่สุดคือ structure ของสูท

The Suit Company ที่ผมรีวิวให้ดูนี้ จริงๆก็ไม่ต่างกับ Suit Select มากนักในเรื่อง construction เพราะมันก็ยังจัดว่าเป็นสูทราคาถูกเหมือนกัน แต่มันยังมี line ที่ใช้ผ้าดีกว่า ผ้า Wool 100% นำเข้าจาก Italy ของแบรนด์ผ้าที่เคยได้ยินชื่อเสียง พอไว้ใจได้บ้าง และด้วยความที่ผมไม่ได้ใส่บ่อย ผมเลยไม่ค่อยห่วงเรื่อง Contruction ของ Jacket มันเป็น Fused ทั้งตัวมากนัก

Price

ราคาน่าจะเป็นเรื่องแรกที่คนรุ่นผมสนใจกัน เราอยากใช้ของคุณภาพดีๆ แต่ของคุณภาพดี ราคาก็สูงตามไปด้วย ตัวที่ผมซื้อมานี้ราคา 43,000 เยน (ยังไม่รวม VAT) รวมๆแล้วก็ประมาณ 15,000 บาท ก็ถือว่าพอๆกับ Suit Supply สำหรับผ้าที่คุณภาพใกล้เคียงกัน

Color

โจทย์ของผมข้อเดียวเลยคือผมอยากได้สูทที่ใส่กับรองเท้า Captoe Oxford สี Tan ของ Mango Mojito ที่มีอยู่ ทำให้มีตัวเลือกอยู่แค่ 2 โทนคือน้ำเงินกับเทา น้ำเงินก็ไม่ควรจะเข้มขนาดกรมท่า ส่วนเทาก็คงได้แค่เทาอ่อนๆ เพราะถ้าชุดเข้มเข้มมาก รองเท้าจะดูเด่นเกินไปแบบประหลาด ถึงผมจะชอบลายทอ Wool บนผ้าสีเทาอ่อนมากกว่า แต่สุดท้ายตัดสินใจเลือกสี Navy Blue เพราะคิดว่าถ้าต้องใส่กับกางเกงสีอื่น ก็น่าจะหากางเกงเข้าง่ายกว่า

Fabric

ผ้าของ The Suit Company มี Pure Wool ให้เลือกมากมายจากหลากหลายแบรนด์ ทั้ง Carlo Berbera, Vitale Barberis Canonico, Reda แต่ด้วยความที่ญี่ปุ่นนิยมผ้าลายทาง (Pinstripe) กันมาก ทำให้ผ้าสีพื้นธรรมดาๆหาค่อนข้างยากหน่อย ด้วยความช่วยเหลือของ Google Translate ผมเลือกไปจากบ้านเลย 4 ชุด แล้วค่อยไปยื่นให้พนักงานที่ร้านเช็คให้ครับ

แต่ก็ยังไม่มี size ผมถึง 3 ตัว โชคดีที่ตัวที่ 4 ที่เลือกไว้มี size และสีจริงก็ดูไม่เลวเลย ผ้าตัวที่ได้มานี่เป็น Super 120’s ของ Vitale Berberis ครับ พนักงานที่ร้านก็ดูเข้าใจเรื่องผ้าดีทีเดียว แต่ที่ประทับใจที่สุดเลยคือพนักงานที่นี่พูดภาษาอังกฤษดีมาก ผิดกับหลายๆร้านในญี่ปุ่นที่สื่อสารกันค่อนข้างลำบาก

Style

ผมไม่ค่อยชอบสูทปกเล็กเหมือนยุคดาราเกาหลีบูมๆ แต่ปัจจุบันเรายังคงเห็นคนใส่สูท style นี้เยอะพอสมควร ผมเลยมองหาสูทที่ปกธรรมดา ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ส่วนทรง แน่นอนว่าต้องใส่แล้วไม่ดูเหมือนนักการเมืองในสภา Slim เป็นสิ่งที่เรามองหา จะมากน้อยดูจาก fit pic ในเวบก็พอบอกได้ สุดท้ายต้องไปลองเองอยู่ดี

สำหรับกางเกงนั้นเป็นแบบ Flat front รุ่นที่ผมซื้อมานี่เขามีกางเกงให้ 2 ตัวครับ ผมเลยให้เขาตัวแบบขาเบิ้ลให้ตัวนึง อีกตัวก็ทำ Hem แบบปกติ สังเกตดูครับว่า Hem ของกางเกง Dress pants จะพับเข้าไปสูงประมาณ 9-10 cm เพื่อเพิ่มน้ำหนักในการทิ้งตัวของกางเกง ส่วนขาเบิ้ลเราเลือกได้ว่าอยากได้ขนาดเท่าไหร่ ปกติก็ 2 นิ้วหรือ 5 cm

Let’s dress up

ผมยังคงยึดความเรียบง่ายในการเล่นสีเช่นเคย เลือกเชิ้ตสีขาว Spread Collar โดยเลือกผ้า twill ลายใหญ่จะได้ดูไม่โล้นๆจนเกินไป ส่วนไทก็ได้ลายดอกไม้เล็กๆสีน้ำเงินของ Hill-Side มา ตอนแรกอยากได้ถุงเท้าโทนสีน้ำเงินเหมือนไทด้วย แต่หาไม่ได้เลยได้คู่นี้มากจาก Uniqlo แทน

Last Comment

ถ้าให้ผมแนะนำการเลือกซื้อสูทสักตัว ผมอยากให้สำรวจความต้องการในการใช้งานของตัวเองดูก่อนว่าเรามีโอกาสได้ใส่มากน้อยแค่ไหน ในความคิดผมถ้าซื้อ BMW มาจอดไว้ที่บ้าน แต่นั่ง BTS ไปทำงานทุกวันมันก็ดูจะเป็นการลงทุนที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุครับ เป็นผมผมเลือกซื้อ Jazz ดีกว่า และนี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่ผมยอมจ่ายค่าแว่นระดับ High แต่ไม่ยอมจ่ายค่าสูท

และเช่นกันครับสำหรับคนที่ต้องใส่สูททำงาน การซื้อสูทราคาถูกแบบนี้อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะสูท contruction ไม่ดี ใส่แล้วซักไม่กี่ทีก็โยนทิ้งได้เลย อย่างน้อยควรเลือก Jacket ที่เป็น Half Canvas อย่างพวก Suit Supply จะดีกว่า ผ้าอาจจะไม่ดีเท่า แต่ style และ contruction โอเคเลยครับ

ถึงแม้คนรุ่นใหม่ๆจะมองกันว่าเรื่องสูทเป็นเรื่องไกลตัว แต่อยากให้ศึกษากันไว้บ้างครับ เพราะถ้าไม่รู้อะไรเลยแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปในร้านสูท แค่คำถามแรกที่พนักงานถาม อาจจะทำให้สตันไปหลายวิเอาง่ายๆ

 

words by
Published on