The Ugly Knot

เรากำลังผูกไทแบบขี้เหร่กันอยู่หรือเปล่า ?

หากใครหลงเข้ามาอ่าน ผมขออนุญาตเกริ่นไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่บทความ Necktie 101 เราไม่มีคลิปสอนผูกไทไม่ต่ำกว่าร้อยคลิปบน youtube ถ้าคุณยังผูกไทไม่เป็น แนะนำให้ไปดูคลิปพวกนั้นก่อนอ่านต่อ

เรื่องจริงของคนที่ผูกไทเป็นแล้วคือ คุณกำลังผูกมันแบบขี้เหร่อยู่ 

ผมนั่งสังเกตรูปงานแต่งงานที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเกือบทุกสัปดาห์มาเป็นเวลา 1-2 ปี แต่แทนที่เวลาผมเห็นคนผูกไทจะรู้สึกว่า เฮ้ย เขาดูดีขึ้นกว่าคนอื่นๆที่ใส่สูทอย่างเดียว แต่ความรู้สึกผมกลับเป็นตรงกันข้าม ถึงแม้ว่าไทคือหนึ่งใน accessories หรือสิ่งที่เรียกว่าไม่จำเป็นต้องมี เป็นแค่ส่วนเสริม แต่เมื่อเราเลือกที่จะใช้มัน ก็ควรจะให้ความสำคัญกับมันหน่อย

ถ้ายังจำได้ผมเคยเปรียบเทียบว่าการ ใส่สูท ผูกไท เหมือนภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันคือการแสดงให้เห็นถึงความสากลของตัวเรา ผมไล่เรียงความขี้เหร่ของการผูกไทมาได้ 3 อย่าง อยากให้ลองเอาไปปรับใช้กันดู

ผูกไท double four in hand

ขี้เหร่ที่ 1 : เสื้อเชิ้ต 

ปัญหาของการผูกไทอักดับแรก ไม่ได้เกิดจากไทหรือปมของมันแต่อย่างใด แต่มันเป็นเรื่องของปกเสื้อล้วนๆ เรื่องนี้ต้องโทษวัฒนธรรมยิ่งเล็ก ยิ่งหล่อถึงแม้ว่าเราผ่านจุดสูงสุดของมันมาแล้วก็ตาม เราก็ยังคงเห็นผลผลิตของวัฒนธรรมนี้อยู่บ้าง เชิ้ต super slim fit เป็นหนึ่งในนั้น พอทุกอย่างมันสลิมปกเชิ้ตเลยต้องสลิมตาม แต่พอเสื้อมันเด้งกลับมาเป็นเสื้อปกติ ปกมันดันไม่เด้งกลับมาด้วย นี่คือต้นตอของ The Ugly Knot ที่แท้จริง

นอกจากเราควรจะเลือกเสื้อเชิ้ตที่มีขนาดคอพอดีกับเรา ติดกระดุมคอได้โดนไม่แน่นหรือหลวมเกินไป เราควรเลือกเสื้อเชิ้ตที่มีฐานปกสูงพอ เพราะถ้ามันแคบไป ปมมันก็จะดูล้นออกมาจากปก ปกปิดไทไม่มิด ปกเชิ้ต Dress shirt ส่วนใหญ่ที่ทำมาให้เหมาะกับการผูกไทจะมีฐานปกสูงกว่าพวกเชิ้ตลำลอง

ขี้เหร่ที่ 2 : ปม

เล็ก แน่น และมีลักยิ้ม

นิยามของปมไทที่สวย จำไว้ให้ขึ้นใจ 

ขนาดของปมความจริงแล้วขึ้นกับวิธีการผูกด้วย ถ้าใครยังชอบผูกปม windsor หรือปมสามเหลี่ยม จะแบบ half หรือ full ก็ตาม ผมแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาผูกแบบ four-in-hand กันเถอะ เล็กและเรียวกว่า ที่สำคัญผูกง่ายกว่าเยอะ ส่วนใครที่อยาก advance กว่านั้น ก็ข้ามไป four-in-hand แบบ double ได้เลย

อย่างไรก็ตาม เรื่องชนิดของปมไม่สำคัญเท่ากับความแน่นของปม ยิ่งดึงแน่น ก็จะได้ปมที่เล็กมากขึ้น และไทมันจะอยู่ทรง ไม่ต้องคอยจับ จัด เช็ค กันตลอดเวลาให้เสียบุคลิก

ส่วนเรื่องลักยิ้ม ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็น final touch ที่จะกำหนดสไตล์ของแต่ละคน บางคนใช้รายละเอียดตรงนี้เพิ่มสีสันให้กับความสุภาพของตัวเอง พูดง่ายๆคือตั้งใจผูกออกมาให้มันดูไม่เรียบร้อย แต่ในความยุ่งเหยิงนั้นเองที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับการแต่งตัวของเรา ส่วนคนไหนที่ผูกแบบไม่มีลักยิ้ม ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณเลือกสไตล์ของตัวเอง ไม่ใช่เลือกเพราะไม่รู้ว่ามีตัวเลือกอื่น

ขี้เหร่ที่ 3 : ความยาว

ความยาวดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กที่สุด เพราะถ้าเราติดกระดุมสูททุกครั้ง มันก็แทบจะปิดปลายของไทมิด แต่ในความเป็นจริง เรามักลืมติดกระดุมสูทกัน และนั่นคือวินาทีที่ความขี้เหร่ของความยาวไทเผยออกมา

การกะความยาวเป็นปัญหาในการผูกไทของหลายคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ผูกเป็นประจำ รวมถึงผมเองด้วยเช่นกัน ผมไม่เคยผูกไทให้ออกมาพอดีได้ภายในครั้งแรก ข้อแนะนำเดียวสำหรับคนขี้เกียจผูกหลายรอบคือ

ยาวได้ แต่อย่าสั้น

เราเคยถูกสอนกันมาว่าความยาวไทต้องแตะหัวเข็มขัดพอดี นั่นแหละความยาวที่ผมหมายถึง ยาวกว่านั้นได้แต่อย่าให้ลอยขึ้นมาจากระดับเข็มขัดเพราะมันดูผิดสัดส่วน

ส่วนยาวเกินลงมาได้แค่ไหน ? ผมไม่มีคำตอบตายตัวให้ เพราะขึ้นอยู่กับระดับเอวกางเกงด้วยใส่เอวสูงไทก็ยาวเกินได้มากกว่าเอาเป็นว่าเชื่อกระจกอย่าเชื่อผมดูความสมส่วนโดยรวมนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด

ผมไม่เคยมองการผูกไทเป็นเรื่องใหญ่โต ในทางกลับกันผมมองว่ามันเป็นจุดเล็กๆ แต่เป็นจุดเล็กๆที่ถ้าเราใส่ใจทำมันให้ดี มันจะช่วยทำให้เราดูดีขึ้นอีกมาก มากกว่าการหา pocket square มายัดกระเป๋าเสียอีกก็ได้แต่หวังว่าเมื่อผมเห็นภาพแต่งงานภาพต่อไปความรู้สึกต่อคนผูกไทจะเปลี่ยนไป

words by
Published on