ผมว่าเราเห็นบทความพวกนี้มาเยอะพอสมควร ผมคงไม่มาบอกว่ามันพับได้กี่แบบหรือนำเสนอแบบพิสดารอะไรทั้งนั้น ลอง search คำว่า “denim cuff” น่าจะเจอบทความซ้ำๆกันเต็มไปหมด
ส่วนสิ่งที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้คือ พับแบบไหนเหมาะกับสไตล์อะไรบ้าง แต่ต้องบอกก่อนว่ากางเกงยีนส์ตัวเดียวทำไม่ได้ทุกแบบครับ เพราะความยาวหลังจากพับแล้วเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญกับมัน อย่าง 4 แบบนี้อย่างน้อยต้องมีกางเกงสัก 2 ตัวครับ ตัวแรกเป็นของ Sugar Cane ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ส่วนอีกตัวเป็นของ Orslow ไว้จะรีวิวให้ดูกันครับ จริงๆมีของ Pigerworks อีกตัวที่สับกันใส่อยู่ตอนนี้ด้วย
––
Universal cuff
Cuff นี้น่าจะเป็นแบบเบสิคที่เข้ากันได้กับสไตล์ casual เกือบทุกแบบ ยิ่งใส่กับรองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิคอย่าง Jack Purcell ยิ่งให้ลุคที่ดูสบายๆ แน่นอนว่าจะเลือกใส่กับเสื้อ Oxford สีพื้นหรือเสื้อลายตารางก็ดูเข้ากันได้ไม่ยาก
Tip: ตัดขาให้พอดีรองเท้า แล้วเวลาพับขาขึ้นมาขาจะลอยพอดีๆ
Countryman cuff
หลายคนคงมองว่า cuff ใหญ่ๆน่าจะเหมาะกับ Chukka มากกว่า แต่ด้วยความที่ผมตัวเตี้ยฮะ cuff ใหญ่กับรองเท้าหัวโตๆแบบนี้มันทำให้ยิ่งดูตันและเตี้ยลงไปอีก ผมเลยเลือกพับทบเล็กๆดีกว่า ในรูปนี่ผมพับขึ้นมา 3 ทบ
Tip: เราใส่รองเท้าบูทเพื่อจะโชว์ว่ามันเป็นบูท เพราะฉะนั้นอย่าให้ขากางเกงมันไปปิดทรงรองเท้าหมด
Rugged cuff
จากพับ 3 ทบก็กลายมาเป็นทบใหญ่ๆทบเดียว cuff แบบนี้ผมว่าควรใส่กับรองเท้าทรงเรียวๆนะ แต่ถ้าอยากได้ลุคแบบ American worker บูทก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ส่วนผมเลือกใส่กับรองเท้า Penny Loafers อย่าง Weejuns ก็ช่วยให้ความเนี๊ยบของลุคเด็ก Ivy ดูลดลงได้
Tip: พับใหญ่แบบนี้ ควรใส่เสื้อไว้ในกางเกง ทำให้เห็นช่วงขายาวกว่า จะช่วยให้ไม่ดูเตี้ยหรือตัน
Cityboy cuff
แบบนี้คือแบบที่เรียบร้อยที่สุด และคงจะเรียกว่า cuff ไม่ได้ด้วย ถ้าใส่ถุงเท้าลายๆกับรองเท้าหนังผมจะเลือกแบบนี้มากกว่า เพราะสีกางเกงด้านในมันทำให้ถุงเท้าดูจืดลงไป และแน่นอนว่าความยาวขาที่พอดีรองเท้า ก็จะทำให้เห็นถุงเท้าตอนเดินและนั่งด้วย
Tip: ถ้าไม่ใส่ถุงเท้าแนะนำให้พับแบบแรกดีกว่าด้วย
––
ก็ฝากไว้เป็นแนวทางในการหาสไตล์ที่ใช่เช่นเคย ไม่ต้องทำตามผมไปซะหมดครับ ลองเปลี่ยนกับตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วจะรู้ว่าเราชอบแบบไหน แบบที่ใส่แล้วดูมั่นใจที่สุด นั่นคือ style ของเรา แต่อย่าลืมคำนึงถึงสถานที่และโอกาสด้วยครับ